A-26 / B-26 นั้นเป็นเครื่องบินประเภทโจมตีทิ้งระเบิดขนาดเบาผลิตโดยบริษัท Douglas Aircraft โดยมีพลประจำเครื่อง 3 คน ใช้เครื่องยนต์ใบพัด 2เครื่องยนต์ ทำความเร็วสูงสุดได้ 571 กม./ชม. เพดาบินสูงสุด 6,736 เมตร พิสัยการบิน 2,253 กม.
อาวุธนั้นประกอบไปด้วย ปืนขนาด7.62 มม.จำนวน 6กระบอกติดตั้งที่ปีกข้างละ 3 กระบอก และสามารถติดตั้งปืนขนาด12.7 มม.จำนวน 8กระบอกหรือปืนขนาด 20 มม. 4กระบอกที่ส่วนหัวของเครื่อง และบรรทุกระเบิดได้ 3,629 กก.
เครื่องบิน A-26/B-26 ถือเป็นเครื่องบินที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานอีกแบบหนึ่ง ได้ผ่านสงครามมาถึง 3 สงครามคือ สงครามโลกครั้งที่ 2,สงครามเกาหลีและสงครามเวียดนาม โดยแผนการสร้างนั้นได้เริ่มในปี ค.ศ. 1941 โดยพัฒนาจากเครื่องบินแบบ A-20
และได้รับชื่อว่า A-26 เครื่องบินต้นแบบ(XA-26) บินครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1942 และเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ในภาคพื้นยุโรปเมื่อ 19 พ.ย.1944 ซึ่งบริษัท Douglas Aircraft นั้นได้ทำการผลิตเครื่อง A-26 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จำนวน 2 รุ่น คือ A-26 Bและ A-26 C รวมแล้ว 2,000 กว่าเครื่อง เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2ได้ยุติลง ทั้ง A-26 Bและ A-26 C ได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น B-26 B และ B-26 C และได้เข้ามาทดแทนเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ B-26 Marauder
ซึ่งได้ใช้ชื่อ B-26 เหมือนกัน ซึ่งต่อมาในสงครามเกาหลี เครื่อง B-26 นั้นได้เข้าร่วมรบด้วยเครื่องบินประมาณ 450 เครื่อง และในสงครามเวียดนามในภาระกิจทิ้งระเบิดซึ่งส่วนใหญ่จะทำภารกิจตอนกลางคืน
ในปี ค.ศ. 1963 บริษัท On Mark Engineering ได้นำเครื่อง B-26 C มาดัดแปลงให้เป็นเครื่องที่ทำหน้าปราบผู้ก่อการร้ายโดยเปลี่ยเครื่องยนต์ใหม่ให้มีกำลังแรงม้าสูงขึ้นเป็น 2,500 แรงม้าจากเดิมนั้นคือ 2,000 แรงม้า และรุ่นที่ปรับปรุงใหม่นี้คือ B-26 K ซึ่งจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนคือจะมีถังน้ำมันที่ปลายปลีก
เครื่องบินแบบ A-26/B-26 นั้นมีปลดประจำการในปี ค.ศ. 1980