Boeing B-50 Superfortress
เครื่องบินทิ้งระเบิดที่เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์แบบแรกของโลก และอาจจะเรียกได้ว่าถอดแบบมาจากเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ B-29 ที่เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดที่มีชื่อเสียงอีกแบบหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
***Boeing B-29 Superfortress***
แถมมีชื่อเล่นหรือฉายาเดียวกันคือ “Superfortress” เพราะ B-50 นั้นพัฒนามาจากเครื่องบินแบบ B-29 และสร้างมาจากบริษัทเดียวกันคือบริษัท Boeing ความเป็นมาของเครื่องบิน B-50 นั้น เกิดจากเมื่อญี่ปุ่นนั้นยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1945แล้ว ผลกระทบที่ตามมานั้นคือ ทางกองทัพอากาศสหรัฐได้สั่งให้ Boeing สร้างเครื่องบินทิ้งระเบิด B-29 จำนวนกว่า 5,000 เครื่อง และทาง Boeing นั้นได้ส่งมอบเครื่องบินรุ่นนี้ให้กับกองทัพอากาศสหรัฐไปกว่า 3,000 เครื่องแล้ว และในตอนนั้นทางกองทัพอากาศสหรัฐนั้นมีความต้องการเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ใช้เครื่องยนต์ไอพ่น ที่มีหลายบริษัทกำลังพัฒนาอยู่ จึงสั่งยกเลิกการสั่งผลิตเครื่องบินแบบ B-29
แต่ขณะที่กำลังรอให้มีการพัฒนาเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ใช้เครื่องยนต์ไอพ่นนั้น ทางกองทัพอากาศสหรัฐได้ให้ทาง Boeing นั้นพัฒนาเครื่องบิน B-29 นั้นมีกำลังเครื่องยนต์ให้สูงขึ้นจากเดิมเพราะเครื่องบิน B-29 นั้นเครื่องยนต์ให้กำลัง 2,200 แรงม้า ทาง Boeing จึงได้นำเครื่องบิน B-29 นั้นไปพัฒนาโดยทำเครื่องต้นแบบโดยให้ชื่อว่า XB-44
***XB-44***
จนได้เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า B-29 โดยให้ชื่อว่า B-50 และได้รับฉายาเดียวโดยข้อแตกต่างของ B-50กับ B-29 นั้นคือ กำลังเครื่องยนต์ของ B-50 นั้นสูงถึง 3,500 แรงม้าซึ่งสูงกว่า B-29 ลำตัวและปีกนั้นมีน้ำหนักเบากว่าแต่แข็งกว่า B-29 โดยใช้โลหะผสมแบบใหม่ในการสร้างและหางนั้นสูงกว่า B-29
***B-50***
เครื่องบิน B-50 นั้นมีเที่ยวบินทดสอบครั้งแแรกเมื่อ 25 มิ.ย. 1947 และมีการสร้างมากว่า 300 เครื่อง จนเมื่อมีเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นใหม่เข้ามาทดแทน จึงมีการนำเครื่องบิน B-50 ไปดัดแปลงในการทำภารกิจอื่นเช่น RB-50 ในการทำภารกิจลาดตระเวน WB-50 ทำภารกิจตรวจอากาศ และก่อนปลดประจำการนั้นถูกนำไปทำเป็นเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศ KB-50
***KB-50***
เครื่องบิน B-50 นั้นใช้เจ้าหน้าที่ 11 นาย เครื่องยนต์ใบพัดลูกสูบ 4 เครื่องยนต์ ทำความเร็วสูงสุด 640 กม./ชม. เพดานบินสูงสุด 11,580 เมตร พิสัยทำการ 7,886 กม. อาวุธนั้นติดตั้งปืนขนาด 0.50 นิ้ว จำนวน 13 กระบอก บรรทุกระเบิดได้น้ำหนักรวม 12,701 กก.
เครื่องบินรุ่นนี้ได้ปลดประจำการในปี ค.ศ.1965